สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์ 21-27 ก.ย. 61



ข้าว
 
1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
1.1 การตลาด
มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2561/62
มติที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2561 เห็นชอบในหลักการมาตรการฯ ด้านการผลิตและการตลาด ทั้งหมด 10 โครงการ ดังนี้
(1) ด้านการผลิต* ได้แก่ 1) โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบนาแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่) 2) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ 3) โครงการพัฒนาเกษตรกรปราดเปรื่อง 4) โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแม่นยำสูง (Precision Farming) 5) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพชั้นเลิศ 6) โครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดข้าวพันธุ์ กข 43 เพื่อสุขภาพแบบครบวงจร และ 7) โครงการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตข้าวในพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง
หมายเหตุ * ด้านการผลิต เป็นโครงการที่หน่วยงานดำเนินการตามปกติ จึงไม่นำเข้าที่ประชุม ครม.พิจารณามาตรการฯ
(2) ด้านการตลาด
- มติที่ประชุม คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2561 อนุมัติการดำเนินโครงการและวงเงินงบประมาณที่ใช้ช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2561/62 ด้านการตลาด จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปีและการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าว
2) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร และ 3) โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก
- มติที่ประชุม คณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2561 อนุมัติทบทวนมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าว ปีการผลิต 2561/62 โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2561/61 ตามมติคณะกรรมการ นบข. เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2561 ที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
(1) กรณีเกษตรกรฝากเก็บข้าวไว้ที่สหกรณ์หรือสถาบันเกษตรกร ให้ปรับปรุงให้ค่าเก็บรักษาข้าวเปลือก
(2) เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร ต้องเก็บรักษาข้าวเปลือกหลักประกันไว้ในยุ้งฉางหรือสถานที่เก็บของตนเองเท่านั้น
(3) ปรับปรุงวิธีการเก็บรักษาข้าวเปลือกของสถาบันเกษตรกร ต้องเก็บรักษาข้าวเปลือกโดยบรรจุข้าวเปลือกในกระสอบป่านหรือถุง Big bag และวางเรียงในยุ้งฉางหรือสถานที่เก็บเพื่อสะดวกในการตรวจสอบ หรือเก็บข้าวในยุ้งฉางที่ยกพื้นสูงหรือไซโล (SILO) ยกเว้นกรณีเทกองจะต้องมีระบบการระบายอากาศ เพื่อการรักษาคุณภาพข้าวเปลือกไม่ให้เสื่อมสภาพตลอดระยะเวลาโครงการ
1.2 ราคา
1) ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ข้าวเปลือกเจ้านาปีหอมมะลิ สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 15,161 บาท ราคาลดลงจากตันละ 15,268 บาท
ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.70
ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 7,550 บาท ราคาลดลงจากตันละ 7,556 บาท
ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.08
2) ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 1 (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 34,090 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ข้าวขาว 5% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 11,750 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
3) ราคาส่งออกเอฟโอบี
ข้าวหอมมะลิไทย 100% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 1,117 ดอลลาร์สหรัฐฯ (35,952 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 1,142 ดอลลาร์สหรัฐฯ (36,892 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.18 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 940 บาท
ข้าวขาว 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 408 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,132 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 406 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,116 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.49 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 16 บาท
ข้าวขาว 25% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 396 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,746 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 394 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,728 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.50 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 14 บาท
ข้าวนึ่ง 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 408 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,132 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 406 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,116 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.49 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 16 บาท
หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 32.1865
 
2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ
          ไทย-จีน
          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า กรมการค้าต่างประเทศสามารถตกลงราคาขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ปี 2558 งวดที่ 6 ปริมาณ 1 แสนตัน กับ COFCO ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนได้แล้ว หลังจากที่รัฐบาลจีนได้ชะลอการนำเข้าข้าวในช่วงกลางปีที่ผ่านมา เนื่องจากจีนมีผลผลิตข้าวปริมาณมาก ส่งผลให้ความต้องการนำเข้าข้าวในตลาดจีนมีน้อย ซึ่งการส่งมอบข้าวงวดที่ 6 เป็นชนิดข้าว 5% ฤดูกาลผลิตใหม่มีกำหนดส่งมอบปลายเดือนกันยายน – ตุลาคมนี้
          ทั้งนี้ ถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่งสำหรับเกษตรกรชาวนาและตลาดข้าวไทย ที่มีคำสั่งซื้อปริมาณมากรองรับผลผลิตตั้งแต่ช่วงต้นฤดูนาปีที่ข้าวไทยเริ่มทยอยออกสู่ตลาด เนื่องจากผู้ส่งออกจะต้องไปรับซื้อข้าวเปลือกจากชาวนา เพื่อส่งมอบภายใต้สัญญาดังกล่าว ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายได้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น
          นอกจากนี้ การตกลงซื้อข้าวดังกล่าว ยังเป็นสัญญาณเชิงบวกที่แสดงให้เห็นว่า ตลาดจีนมีความต้องการนำเข้าข้าวไทย และอาจมีคำสั่งซื้อเพิ่มเติมอีกภายในปี 2561 โดยในช่วงที่ผ่านมา กรมการค้าต่างประเทศได้ส่งมอบข้าวให้ COFCO ภายใต้สัญญาดังกล่าวแล้ว 5 งวด ปริมาณรวม 5 แสนตัน และจะเร่งเจรจาให้รัฐบาลจีนตกลงราคาและนำเข้าข้าวที่เหลืออีก 4 แสนตัน เพื่อให้ครบปริมาณ 1 ล้านตัน ตามสัญญาโดยเร็ว
          สำหรับการหาตลาดรองรับผลผลิตข้าวนาปีที่กำลังออกสู่ตลาดนั้น ได้เร่งเดินหน้าผลักดันการส่งออกข้าวไทยในช่วงต้นฤดูอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรมส่งเสริมและเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้าวคุณภาพดีของไทยในออสเตรเลีย เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ และข้าว กข 43 รวมถึงผลิตภัณฑ์นวัตกรรมข้าว และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า China – ASEAN Expo ครั้งที่ 15 ที่เมืองหนานหนิงของจีน กระทรวงมั่นใจว่าการส่งออกข้าวของไทยในปีนี้จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 11 ล้านตัน ได้อย่างแน่นอน ซึ่งดูได้จากสถิติการส่งออกข้าวล่าสุดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 21 กันยายน 2561 ที่ส่งออกแล้ว 8.22 ล้านตัน มูลค่า 134,840 ล้านบาท โดยปริมาณและมูลค่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.93 และร้อยละ 13.57 ตามลำดับ
          ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
 
          อินโดนีเซีย
          รัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจระบุว่า รัฐบาลอินโดนีเซียได้ยกเลิกการนำเข้าข้าวจำนวน 600,000 ตันที่เหลือ หลังจากเมื่อเดือนสิงหาคมมีการนำเข้าแล้วประมาณ 1.4 ล้านตัน จากแผนที่วางไว้ว่าจะนำเข้า 2 ล้านตัน ในปีนี้ เนื่องจากประเทศผู้ส่งออกข้าวไม่สามารถที่จะส่งมอบข้าวได้ตามตารางเวลาที่กำหนดไว้
          ก่อนหน้านี้มีการโต้แย้งกันระหว่างผู้บริหารของหน่วยงาน Bulog (state-owned logistics company) กับรัฐมนตรีกระทรวงการค้าเกี่ยวกับประเด็นเรื่องการนำเข้าข้าว ซึ่ง Bulog ระบุว่า อินโดนีเซียไม่มีความจำเป็นที่จะต้อง
นำเข้าข้าวไปจนถึงเดือนมิถุนายน 2562 โดยก่อนหน้านี้ Bulog รายงานว่า ขณะนี้ Bulog มีสต็อกข้าวประมาณ 2.4
ล้านตัน โดยข้าวประมาณ 400,000 ตัน จะส่งมอบประมาณเดือนตุลาคม ซึ่งจะทำให้ในช่วงสิ้นปีนี้ Bulog มีสต็อกข้าว
ที่ต้องบริหารจัดการรวมประมาณ 3 ล้านตัน เนื่องจากในแต่ละวัน Bulog ดำเนินการจัดหาข้าวเปลือกจากเกษตรกร
ในประเทศ วันละประมาณ 4,000 ตันด้วย
          เมื่อสัปดาห์ก่อน กรมการค้าต่างประเทศของอินโดนีเซียระบุว่า การนำเข้าข้าวจากอินเดียและปากีสถาน
ประสบปัญหาล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายที่ประเทศต้นทาง ทำให้การส่งมอบข้าวประมาณ 440,000 ตัน จากสองประเทศล่าช้ากว่ากำหนด จึงจำเป็นต้องมีการเสนอให้ขยายระยะเวลาการรับมอบออกไปจากเดิมที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา
          ที่มา : สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
 
          ไนจีเรีย
          ไนจีเรียคาดว่าปี 2561 ผลผลิตข้าวจะลดลง เนื่องจากได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมในพื้นที่เพาะปลูก
ที่สำคัญ โดยสำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า สมาคมชาวนาไนจีเรีย (the Rice Farmers Association of Nigeria) เปิดเผยว่า มีพื้นที่ได้รับผลกระทบประมาณ 131,250 ไร่ คาดว่าผลผลิตข้าวเปลือกในรัฐ the Kebbi state เสียหายประมาณ 168,000 ตัน ขณะที่รัฐอื่นๆ เช่น Niger, Kano และ Katsina ก็คาดว่าได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน
          ทั้งนี้ เมื่อปีที่แล้วไนจีเรียมีผลผลิตข้าวประมาณ 3.7 ล้านตัน เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับช่วง 5 ปีที่ผ่าน มา ผลผลิตข้าวในประเทศเพียงพอกับความต้องการบริโภคมากกว่าครึ่งหนึ่งในแต่ละปี ซึ่งในปี 2560/61 มีการประเมินว่าความต้องการบริโภคข้าวอยู่ที่ประมาณ 6.7 ล้านตัน
          สำหรับปีการผลิต 2561/62 นี้ กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) คาดว่า ไนจีเรียจะนำเข้าข้าวประมาณ 2.9 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2560/61 ที่คาดว่าจะนำเข้าประมาณ 2.6 ล้านตัน
          ที่มา : สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย


ผลผลิตข้าวโลก บัญชีสมดุลข้าวโลก(ประมาณการ กันยายน 2561)
 
ราคาที่เกษตรกรขายได้ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% และราคาขายส่งตลาด กทม. ข้าวสารเจ้า 5%

 


ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
ราคาข้าวโพดภายในประเทศในช่วงสัปดาห์นี้ มีดังนี้
ราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นไม่เกิน 14.5 % สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.53 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 6.60 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.06 และราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นเกิน 14.5 % สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.19 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 5.20 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.19
ราคาข้าวโพดขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ ที่โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อสัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ8.78 บาท เพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 8.76 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.23 และราคาขายส่งไซโลรับซื้อสัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.34 บาท เพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 8.29 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.60
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 284.00 ดอลลาร์สหรัฐ (9,142 บาท/ตัน) เพิ่มขึ้นจากตันละ 283.00 ดอลลาร์สหรัฐ (9,142 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.35 แต่ทรงตัว
ในรูปแบบของเงินบาท

2. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในต่างประเทศ
กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดคะเนความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของโลก ปี 2561/62 ว่ามี 1,106.12 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 1,067.32 ล้านตัน ในปี 2560/61 ร้อยละ 3.64 โดยสหรัฐอเมริกา จีน สหภาพยุโรป บราซิล เม็กซิโก อินเดีย อียิปต์ แอฟริกาใต้ อาร์เจนตินา อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และอิหร่าน มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้น สำหรับการค้าของโลกมี 157.75 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 149.68 ล้านตัน ในปี 2560/61 ร้อยละ 5.39 โดยอาร์เจนตินา บราซิล ยูเครน เซอร์เบีย  ปารากวัย และเม็กซิโก ส่งออกเพิ่มขึ้น ประกอบกับผู้นำเข้า เช่น สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ อียิปต์ เวียดนาม อิหร่าน โคลัมเบีย จีน ซาอุดิอาระเบีย แอลจีเรีย มาเลเซีย เปรู บังกลาเทศ ชิลี กัวเตมาลา และบราซิล มีการนำเข้าเพิ่มขึ้น (ตารางแนบท้าย)
               ราคาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดชิคาโกเดือนธันวาคม 2561 ข้าวโพดเมล็ดเหลืองอเมริกันชั้น 2
สัปดาห์นี้เฉลี่ยบุชเชลละ 361.76 เซนต์ (4,645 บาท/ตัน) เพิ่มขึ้นจากบุชเชลละ 348.16 เซนต์ (4,488 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 3.91 และเพิ่มขึ้นในรูปของเงินบาทตันละ 157.00 บาท

 


มันสำปะหลัง
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
การผลิต
ผลผลิตมันสำปะหลัง ปี 2561 (เริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 – กันยายน 2561) คาดว่ามีพื้นที่เก็บเกี่ยว 7.87 ล้านไร่ ผลผลิต 27.24 ล้านตัน ผลผลลิตต่อไร่ 3.46 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2560
ที่มีพื้นที่เก็บเกี่ยว 8.71 ล้านไร่ ผลผลิต 30.50 ล้านตัน และผลผลิตต่อไร่ 3.50 ตัน พบว่า พื้นที่เก็บเกี่ยว ผลผลิต และผลผลิตต่อไร่ ลดลงร้อยละ 9.64  ร้อยละ 10.69 และร้อยละ 1.14 ตามลำดับ โดยเดือนกันยายน 2561 คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาด 1.13 ล้านตัน (ร้อยละ 4.13 ของผลผลิตทั้งหมด)
ทั้งนี้ผลผลิตมันสำปะหลังปี 2561 ออกสู่ตลาดแล้ว (เดือนตุลาคม 2560 – สิงหาคม 2561) ปริมาณ 27.24 ล้านตัน (ร้อยละ 100 ของผลผลิตทั้งหมด)
การตลาด
เป็นช่วงปลายฤดูการเก็บเกี่ยว หัวมันสำปะหลังออกสู่ตลาดน้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการของโรงงานแป้งมันสำปะหลังและลานมันเส้น
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศประจำสัปดาห์ สรุปได้ดังนี้
ราคาหัวมันสำปะหลังสด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.51 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 2.43 บาท ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 3.29  
ราคามันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.62 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 5.91 บาท
ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 4.91   
ราคาขายส่งในประเทศ
ราคาขายส่งมันเส้น (ส่งมอบ ณ คลังสินค้าเขต จ.ชลบุรี และ จ.อยุธยา) สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.83 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งแป้งมันสำปะหลังชั้นพิเศษ (ส่งมอบ ณ คลังสินค้าเขต กรุงเทพและปริมณฑล) สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 15.39 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 15.29 บาท ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 0.65
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ราคาส่งออกมันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 233 ดอลลาร์สหรัฐฯ (7,500 บาทต่อตัน) ราคาทรงตัวในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ (7,527 บาทต่อตัน) ในสัปดาห์ก่อน
ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลัง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 505 ดอลลาร์สหรัฐฯ (16,256 บาทต่อตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (16,152 บาทต่อตัน) ในสัปดาห์ก่อน คิดเป็นร้อยละ 1.00

 
 


ปาล์มน้ำมัน
 
1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่าปี 2561 ผลผลิตปาล์มน้ำมันเดือนกันยายนจะมีประมาณ 1.274   
ล้านตันคิด เป็นน้ำมันปาล์มดิบ 0.217 ล้านตัน สูงขึ้นจากผลผลิตปาล์มทะลาย 1.137 ล้านตัน คิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ 0.193 ล้านตัน ของเดือนสิงหาคม 2561 คิดเป็นร้อยละ 12.05  และร้อยละ 12.44 ตามลำดับ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาผลปาล์มทะลาย สัปดาห์นี้เฉลี่ย กก.ละ 3.01 บาท ลดลงจาก กก.ละ 3.06 บาท ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 1.63                                                                   
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาน้ำมันปาล์มดิบ สัปดาห์นี้เฉลี่ย กก.ละ 18.30 บาท ลดลงจาก กก.ละ 18.80 บาท ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 2.66         
 
2.  ภาวะการผลิต การตลาด และราคาในตลาดต่างประเทศ
ราคาในตลาดต่างประเทศ   
ตลาดมาเลเซีย ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันปาล์มดิบสัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 2,132.66 ดอลลาร์มาเลเซีย  (16.97 บาท/กก.) สูงขึ้นจากตันละ 2,130.90 ดอลลาร์มาเลเซีย  (16.99 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 0.08      
ตลาดรอตเตอร์ดัม ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันปาล์มดิบสัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 527.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ  (17.20 บาท/กก.) ลดลงจากตันละ 548.13 ดอลลาร์สหรัฐฯ  (17.95 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 3.76            
หมายเหตุ  :  ราคาในตลาดต่างประเทศเฉลี่ย 5 วัน

 


อ้อยและน้ำตาล 
 
  1. สรุปภาวะการผลิต  การตลาดและราคาในประเทศ
          ไม่มีรายงาน
  1. สรุปภาวการณ์ผลิตการตลาดและราคาในต่างประเทศ


 


ถั่วเหลือง
 
1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาถั่วเหลืองชนิดคละ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งถั่วเหลืองสกัดน้ำมัน สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 18.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาขายส่งกากถั่วเหลืองใน สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
         
2. ภาวะการผลิต การตลาด และราคาในตลาดต่างประเทศ
ราคาในตลาดต่างประเท (ตลาดชิคาโก)
ราคาซื้อขายล่วงหน้าเมล็ดถั่วเหลือง สัปดาห์นี้เฉลี่ยบุชเชลละ 847.76 เซนต์ (10.16 บาท/กก.) สูงขึ้นจากบุชเชลละ 827.80 เซนต์ (9.96 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 2.41
ราคาซื้อขายล่วงหน้ากากถั่วเหลือง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 306.54 ดอลลาร์สหรัฐฯ (10.00 บาท/กก.) สูงขึ้นจากตันละ 305.70 ดอลลาร์สหรัฐฯ (10.01 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 0.27
ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันถั่วเหลืองสัปดาห์นี้เฉลี่ยปอนด์ละ 28.41 เซนต์ (20.42 บาท/กก.) สูงขึ้นจากปอนด์ละ 27.37 เซนต์ (19.75 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 3.80


 


ยางพารา
 
ราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ตลาดกลางหาดใหญ่ สัปดาห์นี้ 40.59 บาท/กิโลกรัม
1. ราคายางพาราภายในประเทศ
1.1  ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ 
1) ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 41.22 บาท ลดลงจาก 41.63 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.41 บาท หรือลดลงร้อยละ 0.98 
2) ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 2 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 40.72 บาท ลดลงจาก 41.13 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.41 บาท หรือลดลงร้อยละ 1.00
3) ยางแผ่นดิบคุณภาพที่ 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 40.22 บาท ลดลงจาก 40.63 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.41 บาท หรือลดลงร้อยละ 1.01
4) ยางก้อนคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 18.75 บาท ลดลงจาก 19.22 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.47 บาท หรือลดลงร้อยละ 2.45
5) เศษยางคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 15.56 บาท ลดลงจาก 15.83 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.27 บาท หรือลดลงร้อยละ 1.71
6) น้ำยางสดคละ ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 36.95 บาท เพิ่มขึ้นจาก 36.78 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.17 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.46 
1.2 ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. ซื้อขายล่วงหน้าส่งมอบเดือนตุลาคม 
ณ ท่าเรือกรุงเทพ
1)  ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 48.35 บาท เพิ่มขึ้นจาก 48.27 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.08 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.17
2)  ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 47.20 บาท เพิ่มขึ้นจาก 47.12 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.08 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.17
3) ยางแท่ง (STR20) ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.63 บาท เพิ่มขึ้นจาก 44.42 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.21 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.47
4) น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 34.05 บาท เพิ่มขึ้นจาก 33.81 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.24 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.71
ท่าเรือสงขลา 
1)  ยางแผ่นรมควันชั้น 1 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 48.10 บาท เพิ่มขึ้นจาก 48.02 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.08 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.17
2)  ยางแผ่นรมควันชั้น 3 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 46.95 บาท เพิ่มขึ้นจาก 46.87 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.08 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.17
3) ยางแท่ง (STR20) ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.38 บาท เพิ่มขึ้นจาก 44.17 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.21 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.48
4) น้ำยางข้น ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 33.80 บาท เพิ่มขึ้นจาก 33.56 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา กิโลกรัมละ 0.24 บาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.72
2.  ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ในตลาดล่วงหน้าต่างประเทศ  
2.1 ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดสิงคโปร์ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 141.08 เซนต์สหรัฐฯ (45.41 บาท) ลดลงจาก 143.86 เซนต์สหรัฐฯ (46.47 บาท) ของสัปดาห์ที่ผ่านมากิโลกรัมละ 2.78 เซนต์สหรัฐฯ หรือลดลงร้อยละ 1.93
2.2 ราคาซื้อขายล่วงหน้าตลาดโตเกียว เฉลี่ยกิโลกรัมละ 145.00 เยน (41.03 บาท) ลดลงจาก 150.45 เยน (42.98 บาท) ของสัปดาห์ที่ผ่านมากิโลกรัมละ 5.45 เยน หรือลดลงร้อยละ 3.62


 

 
สับปะรด

 

 
ถั่วเขียว
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ถั่วเขียวผิวมันเมล็ดใหญ่คละ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 22.00 บาท
ถั่วเขียวผิวมันเมล็ดเล็กคละ และถั่วเขียวผิวดำคละ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ถั่วเขียวผิวมันเกรดเอ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวมันเกรดบี สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 23.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 18.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 12.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วนิ้วนางแดง สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 25.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี        
ถั่วเขียวผิวมันเกรดเอ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 837.00 ดอลลาร์สหรัฐ (26.94 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 833.40 ดอลลาร์สหรัฐ (26.92 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.43 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.02 บาท
ถั่วเขียวผิวมันเกรดบี สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 743.40 ดอลลาร์สหรัฐ (23.93 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 740.20 ดอลลาร์สหรัฐ (23.91 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.43 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.02 บาท
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 587.20 ดอลลาร์สหรัฐ (18.90 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 585.20 ดอลลาร์สหรัฐ (18.90 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.34 แต่ในรูปเงินบาททรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 399.80 ดอลลาร์สหรัฐ (12.87 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 398.40 ดอลลาร์สหรัฐ (12.87 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.35 แต่ในรูปเงินบาททรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วนิ้วนางแดง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 799.60 ดอลลาร์สหรัฐ (25.74 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 796.40 ดอลลาร์สหรัฐ (25.73 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.40 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.01 บาท


 


ถั่วลิสง
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ความเคลื่อนไหวของราคาประจำสัปดาห์ มีดังนี้
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาถั่วลิสงทั้งเปลือกแห้ง สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาถั่วลิสงทั้งเปลือกสด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.67 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 27.17 บาท
ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 1.84
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาถั่วลิสงกะเทาะเปลือกชนิดคัดพิเศษ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 60.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาถั่วลิสงกะเทาะเปลือกชนิดคัดธรรมดา สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 51.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน

 
 


ฝ้าย
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ราคาที่เกษตรกรขายได้
ราคาฝ้ายรวมเมล็ดชนิดคละ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาซื้อ-ขายล่วงหน้าตลาดนิวยอร์ก (New York Cotton Futures) 
ราคาซื้อ-ขายล่วงหน้า เพื่อส่งมอบเดือนตุลาคม 2561 สัปดาห์นี้เฉลี่ยปอนด์ละ 78.62 เซนต์ (กิโลกรัมละ 56.53 บาท) ลดลงจากปอนด์ละ 80.72 เซนต์ (กิโลกรัมละ 58.27 บาท) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.60และลดลงในรูปของเงินบาทกิโลกรัมละ 1.74 บาท
 

 
ไหม
 
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,681 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 1,727 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา  ร้อยละ 2.66
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,383 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 1,393 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา   ร้อยละ 0.72
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 3 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,167 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 1,187 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 1.68


 

 
ปศุสัตว์

สุกร
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ  
สัปดาห์นี้ภาวะตลาดสุกรไม่ค่อยคึกคัก ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อสุกรเริ่มอ่อนตัวลง เพราะสถานศึกษาต่างๆเริ่มทยอยปิดภาคเรียน แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะลดลงเล็กน้อย
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ  60.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 60.62 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 1.02  โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 59.12 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 57.40 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 60.68 บาท  และภาคใต้ กิโลกรัมละ 62.42 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้  ตัวละ 1,700 บาท (บวกลบ 60 บาท)  ลดลงจากตัวละ 1,800 บาท (บวกลบ 63 บาท)  ของสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 5.56
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิต ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 63.50 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 64.17 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา  ร้อยละ 1.04

 
ไก่เนื้อ
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ
สถานการณ์ไก่เนื้อสัปดาห์นี้ ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตไก่เนื้อออกสู่ตลาดไม่มากนัก  ขณะที่ความต้องการบริโภคไก่เนื้ออยู่ในภาวะปกติ แนวโน้มคาดว่าสัปดาห์หน้าราคาจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย เพราะสถานศึกษาต่างๆ ทยอยปิดภาคเรียน
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 34.27 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 33.95 บาท  ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.94  โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 35.00 บาท  ภาคกลาง กิโลกรัมละ 33.70 บาท ภาคใต้ กิโลกรัมละ 39.32 บาท  และภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่มีรายงาน ส่วนราคาลูกไก่เนื้อตามประกาศของบริษัท ซี.พี ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 11.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา  
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไก่มีชีวิตหน้าโรงฆ่า จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ  33.17 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 33.83 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 1.95  และราคาขายส่งไก่สดทั้งตัวรวมเครื่องใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 44.50 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 48.50 บาท  ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 8.28

ไข่ไก่
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ   
สัปดาห์นี้ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรยังคงทรงตัวจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตไข่ไก่ออกสู่ตลาดสอดคล้องกับความต้องการบริโภค แนวโน้มคาดว่าสัปดาห์หน้าราคาจะทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย  เพราะตลาดหลักของไข่ไก่ สถานศึกษาต่างๆ เริ่มทยอยปิดภาคเรียน
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ  282 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา   โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 295 บาท  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 280 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 279 บาท  และภาคใต้ไม่มีรายงาน  ส่วนราคาลูกไก่ไข่ตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 18.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา  
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่ไก่ (เฉลี่ยเบอร์ 0-4) ในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 307 บาท ลดลงจากร้อยฟองละ 311 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 1.30

 

ไข่เป็ด

ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่เป็ดที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ 329 บาท สูงขึ้นจากร้อยฟองละ 327 บาท  ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ  0.61  โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 350 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 338 บาท ภาคกลาง ร้อยฟองละ 301 บาท และภาคใต้ ร้อยฟองละ  348 บาท
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่เป็ดคละ ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 340 บาท  ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา  

 
โคเนื้อ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ  
ราคาโคพันธุ์ลูกผสม (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 89.52 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 89.33 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.21  โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 91.26 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 83.45 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 91.15 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 100.29 บาท

 
กระบือ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคากระบือ (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 70.15 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 69.68บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.67 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 91.61 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 66.01 บาท ภาคกลางและภาคใต้ไม่มีรายงานราคา

 
 


 
ประมง

1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศการผลิต
เปลี่ยนถ่ายกระชังลูกใหม่หรือเพิ่มออกซิเจนในน้ำนช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่น้ำตาย โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนบวกกับออกซิเจนในน้ำค่อนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 21 – 27 กันยายน 2561) ไม่มีรายงานปริมาณจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 37.17 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 80.00 บาท
ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 90.27 บาท ราคาสูงขึ้นจาก
กิโลกรัมละ 89.01 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.26 บาท
      สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 120.00 บาท
ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.3 กุ้งกุลาดำ ราคาที่ชาวประมงขายได้ ขนาด 60 ตัวต่อกิโลกรัม และราคา ณ ตลาดทะเลไทย     จ.สมุทรสาคร ขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม เฉลี่ยกิโลกรัมละ 134.80 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 141.80 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 7.00 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาคร ขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม เฉลี่ยกิโลกรัมละ 129.17 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 130.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.83 บาท                                                                                                                                                                                                                    
 2.5 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 85.60 บาท   ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 91.82 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 6.22 บาท
     สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 85.00 บาท           ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.6 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 168.00 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 100.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 68.00 บาท
      สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 200.00 บาท  ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.25 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 8.38 ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.13 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% (ระหว่างวันที่ 21- 27 ก.ย. 2561)
 ราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 31.00 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา